Thursday, 23 March 2023

นักวิจัยค้นพบว่ามลพิษทางอากาศนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งปอดได้อย่างไร

นักวิจัยค้นพบว่ามลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศนำมาซึ่งการเกิด โรคมะเร็งปอด ได้ยังไง ซึ่งถือได้ว่าเป็นการค้นพบที่แปลงความเข้าใจถึงการเกิดขึ้นของเนื้องอก โดยยิ่งไปกว่านั้นในคนที่ไม่เคยแม้แต่จะดูดบุหรี่เลย

เมื่อเดือน เดือนกันยายน ทีมงานนักวิจัยสถาบันฟรานซิส คริก ในกรุงลอนดอน บอกว่า มลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้จริง แม้ในคนที่ไม่ดูดบุหรี่ ด้วยการกระตุ้นหรือปลุกเซลล์เก่าๆที่เสียหายขึ้นมา มากยิ่งกว่าการผลิตความทรุดโทรมให้เซลล์ ตามความเชื่อเดิม

หนึ่งในผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสุดยอดเป็นศ.จ. ชาร์ลส์ สแวนตัน บอกว่า การค้นพบดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วทำให้แวดวงแพทย์ “เข้าสู่ยุคสมัยใหม่” แล้วก็บางทีอาจนำมาซึ่งการพัฒนาตัวยา เพื่อยั้งมะเร็งไม่ให้ก่อตัวขึ้น

ความเสี่ยงเกิดมะเร็งปอด

โรคมะเร็งปอด ปกติแล้ว การก่อตัวของมะเร็งจะเกิดเป็นลำดับขั้นตอนเป็นเริ่มจากเซลล์ที่แข็งแรง

แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆมีการกลายพันธุ์ในระดับสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ จนถึงจุดที่กลายเป็นเซลล์แตกต่างจากปกติ สู่เซลล์ของมะเร็ง แล้วก็เติบโตอย่างควบคุมมิได้

แต่แนวความคิดการเกิดมะเร็งแบบนี้ มีปัญหา เพราะการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของมะเร็งได้เกิดขึ้นในเยื่อที่แข็งแรง กลับกลายเป็นว่าต้นตอของมะเร็ง รวมทั้งมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ มิได้ทำความเสียหายต่อดีเอ็นเอ แต่เป็นการกระตุ้นเซลล์ที่เสียหายให้กลับมาทำงานอีกรอบมากกว่า

ศ.จ. สแวนตัน บอกว่า “การเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งปอดจากมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ มีน้อยกว่าการดูดบุหรี่ แต่เพราะมนุษย์ควบคุมการหายใจของตนเองไม่ได้ แล้วก็ทั่วทั้งโลก ผู้คนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยจากมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกว่า การสูดสารเคมีที่เป็นพิษจากควันจากบุหรี่”

แล้วเกิดอะไรขึ้น?

นักวิจัยซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน หรือยูซีแอล ได้ค้นพบหลักฐานถึงแนวความคิดใหม่ถึงการเกิดมะเร็ง โดยยิ่งไปกว่านั้นในบุคคลที่ไม่ดูดบุหรี่ โดยบอกว่า ที่จริงแล้ว ความทรุดโทรมได้ฝังตัวอยู่ในดีเอ็นเอของเซลล์ ในระหว่างที่เราเติบโตแล้วก็มีอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มลพิษทางอากาศ

แต่จะต้องมีสิ่งที่มากระตุ้นความเสียหายในดีเอ็นเอของเซลล์ก่อน มันถึงจะกลายเป็นเซลล์ของมะเร็งได้

การค้นพบนี้ มาจากการตรวจสอบว่าเพราะเหตุใดบุคคลที่ไม่ดูดบุหรี่ถึงเป็นโรคโรคมะเร็งปอด แน่ๆว่า มูลเหตุจำนวนมากของคนไข้โรคมะเร็งปอดมาจากการสูบบุหรี่ แต่ก็พบว่า 1 ใน 10 ของคนไข้โรคมะเร็งปอดในสหราชอาณาจักร เป็นผลมาจากมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ

ทีมงานนักวิจัยของสถาบันฟรานซิส คริก ให้ความสำคัญกับอนุภาคฝุ่นหลังเที่ยงวัน 2.5 (PM 2.5) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของคนเรา

แล้วก็เมื่อปฏิบัติงานทดลองในสัตว์แล้วก็มนุษย์อย่างละเอียด พวกเขาพบว่า สถานที่ที่มีมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศสูง จะพบคนไข้โรคมะเร็งปอดที่มิได้มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ ในรูปทรงที่มากขึ้น

โดยเมื่อสูดฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 เข้าไปภายในร่างกาย จะทำการกระตุ้นให้หลั่ง “อินเทอร์ลิวคิน 1 เบตา” ออกมา เป็นการสนองตอบทางเคมี จนถึงนำมาซึ่งอาการอักเสบ จนถึงร่างกายจำเป็นต้องกระตุ้นเซลล์ในปอดให้เข้ามาปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซม

แต่เซลล์ปอดนั้น ทุกๆ600,000 เซลล์ ในบุคคลอายุราว 50 ปี จะมีอย่างน้อยหนึ่งเซลล์ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของมะเร็งได้ ซึ่งปกติแล้ว ร่างกายจะเกิดเซลล์ที่สุ่มเสี่ยงนี้ เมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น แต่เซลล์จะยังดูแข็งแรงอยู่ กระทั่งจะถูกกระตุ้นให้กลายพันธุ์

การค้นพบที่สำคัญยิ่งกว่าเป็นนักวิจัยสามารถยับยั้งการก่อมะเร็งในหนูที่ปล่อยให้เผชิญอยู่ในสภาพการณ์มลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ ด้วยการใช้ตัวยาเพื่อยั้งการตอบสนองทางเคมีดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว ผลลัพธ์ก็เลยถือได้ว่าเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ 2 ครั้งซ้อนคือเพิ่มความเข้าใจถึงผลกระทบของมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ แล้วก็แนวทางเกิดมะเร็งภายในร่างกาย

ดร. เอมิเลีย ลิม หนึ่งในนักวิจัย ซึ่งประจำอยู่ที่คริกแล้วก็ยูซีแอล บอกว่า ปกติแล้ว บุคคลที่ไม่เคยดูดบุหรี่เลย กลับเป็นโรคโรคมะเร็งปอด ชอบไม่เคยรู้ถึงมูลเหตุ

“ด้วยเหตุนั้น การให้เบาะแสพวกเขาถึงมูลเหตุการเกิดมะเร็ง ก็เลยเป็นเรื่องสำคัญมาก” แล้วก็ “ยิ่งสำคัญมากขึ้น เมื่อประชากร 99% ในโลก ล้วนอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ระดับมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ สูงเกิดกว่าข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลก”

คิดเรื่องมะเร็งเสียใหม่

ผลลัพธ์ของการทดลองนี้ ยังทำให้เห็นว่า การกลายพันธุ์ในเซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ต้นเหตุนำมาซึ่งการเกิดมะเร็งเสมอ แต่อาจมีต้นเหตุอื่นเสริมด้วย

ศ.จ. สแวนตัน บอกว่า การค้นพบที่น่าระทึกใจที่สุดในห้องแลปเป็น“แนวความคิดการเกิดเนื้องอกที่จำเป็นต้องหันกลับมาทบทวนเสียใหม่” แล้วก็นี่บางทีอาจนำมาซึ่ง “ยุคสมัยใหม่” ของการคุ้มครองป้องกันมะเร็งในระดับโมเลกุล อาทิเช่น แนวความคิดที่ว่าถ้าเกิดคุณอยู่ในสถานที่ที่มีมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศสูง คุณอาจทานยาต้านทานมะเร็งได้ เพื่อลดการเสี่ยง

ศ.จ. สแวนตัน บอกกับสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซีว่า เราบางทีอาจจำเป็นต้องพิจารณาถึงแนวทางที่ว่า การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดมะเร็ง ด้วยซ้ำ แล้วก็ที่แท้ แนวความคิดที่ว่า ดีเอ็นเอกลายพันธุ์นั้นน้อยเกินไปที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง เพราะจะต้องมีต้นเหตุอื่นกระตุ้นให้เซลล์ของมะเร็งเติบโต มีการนำเสนอมาตั้งแต่ปี 1947 แล้ว โดย ไอแซค เบเรนบลูม

อย่างไรก็ตาม มิเชลล์ มิตเชลล์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร ย้ำว่า เดี๋ยวนี้ “บุหรี่ยังเป็นต้นเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งปอด” แต่ “วิทยาศาสตร์ อาศัยการทำงานอย่างมากหลายปี แล้วก็กำลังเปลี่ยนแนวความคิดว่ามะเร็งเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วก็เดี๋ยวนี้ เรามีความรู้ความเข้าใจถึงสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งได้มากขึ้นแล้ว”

แล้วโรคมะเร็งปอดพบเจอได้มากเพียงใด ชมรมอเมริกันแคนเซอร์ บอกว่า โรคมะเร็งปอดอีกทั้งแบบจำพวกเซลล์เล็ก แล้วก็จำพวกไม่ใช่เซลล์เล็ก เป็นมะเร็งที่มักพบที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา ในช่วงเวลาที่ในผู้ชายนั้น มะเร็งที่มักพบที่สุดคือโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนสตรีนั้น จะเป็นมะเร็งเต้านม

ทางชมรมประเมินว่า ปี 2022 พบคนไข้โรคมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 236,740 คน แล้วก็เสียชีวิต 130,180 คน โดยคนไข้โรคมะเร็งปอดจำนวนมาก เป็นผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป แต่ก็มีโอกาส แม้ว่าจะน้อยมากๆที่ประชาชนอายุ ชน้อยกว่า 45 ปี จะเป็นโรคโรคมะเร็งปอด โดยอายุเฉลี่ยของคนไข้โรคมะเร็งปอดอยู่ที่ 70 ปี

โรคมะเร็งปอดยังคิดเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เกือบ 25% ของผู้เสียชีวิตจากมะเร็งทั้งหมด

สำหรับประเทศไทยนั้น หมอวีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ พูดว่า โรคมะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่มักพบที่สุดทั่วทั้งโลก สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งปอดถือเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่มักพบ ซึ่งมักพบเป็นอันดับ 2 ในผู้ชาย แล้วก็อันดับ 5 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีคนไข้รายใหม่ราวๆ 17,222 ราย เป็นเพศชาย 10,766 ราย แล้วก็เพศหญิง 6,456 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตราวๆ 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอดเป็นการสูบบุหรี่หรือการได้รับควันจากบุหรี่มือสองแล้วก็การสัมผัสสารก่อมะเร็ง อาทิเช่น ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย แล้วก็มลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ โดยยิ่งไปกว่านั้นฝุ่นพีเอ็ม 2.5

การสูดสารเคมี